การทำพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายนครราชสีมา กำลังเป็นที่นิยมของคนยุคใหม่ เรียบสวยในสไตล์โมเดิร์น มีลวดลายสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติแท้ๆ คอนกรีตแสตมป์นครราชสีมา สวยงามและคงทน รับน้ำหนักได้ดี ง่ายต่อการทำความสะอาดและบำรุงรักษา ช่วยให้พื้นที่บ้านพักอาศัย ลานอาคารสำนักงาน พื้นที่พักผ่อนโรงแรม สวยงาม สะอาดตา ผ่อนคลายได้อย่างแท้จริง หัวใจของการทำพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายนครราชสีมา การเลือกใช้วัสดุทุกชิ้นที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เพราะการเลือกใช้วัสดุเกรดต่ำ อย่างเช่นเลย พวกสีผสม ถึงจะดูสวยงามในระยะแรกๆ แต่อาจดูซีดจางได้อย่างรวดเร็วในอนาคต อีกทั้งการเลือกบริษัทผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์เป็นมืออาชีพที่สำคัญต้องจริงใจ ควบคู่กันไปด้วย
ช่างปูพื้นพิมพ์ลายนครราชสีมา
รับทำคอนกรีตพิมพ์ลายนครราชสีมา
กระเบื้องพิมพ์ลายนครราชสีมา
กระเบื้องลายคอนกรีตแสตมป์นครราชสีมา
กระเบื้องคอนกรีตพิมพ์ลายนครราชสีมา
พื้นแสตมป์คอนกรีต นครราชสีมา
คอนกรีตพิมพ์ลายนครราชสีมา
พื้นคอนกรีตพิมพ์ลายนครราชสีมา
แบบพิมพ์ลายคอนกรีตนครราชสีมา
พิมลายคอนกรีตนครราชสีมา
คอนกรีตพิมพ์ลายสวย ๆนครราชสีมา



ทำไมต้องใช้คอนกรีตพิมพ์ลาย?
- ราคาถูกกว่าหินธรรมชาติ- ดีไซน์และสีสันที่หลากหลาย- ความปลอดภัย เพราะผิวสัมผัสไม่ลื่น เหมาะกับงาน Indoor และ Outdoor- หมดปัญหาพื้นไม่ได้ระดับ ทรุด เอียงของบล็อกปูถนน- พื้นผิวแข็งแรงและทนแรงกระแทกกว่าหลายเท่า- ดูแลรักษาง่าย ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุง และอายุการใช้งานนานกว่า- เป็นเนื้อเดียวกัน ทำความสะอาดง่าย- หมดปัญหา คราบสกปรก ตะไคร่ขึ้นตามรอยยาแนว- หมดปัญหา หญ้าขึ้นตามร่อง เมื่อเวลาผ่านไป- ด้วยความพิเศษของสี ให้ความรู้สึกใกล้เคียงสีธรรมชาติมากที่สุด
คอนกรีตพิมพ์ลาย คืออะไร?stamped concrete หรือ pattern imprinted concreteซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเคลือบสีและพิมพ์ลายบนผิวคอนกรีต ที่นิยมใช้ในต่างประเทศมากว่า 50 ปี โดยภายหลังเรียกสั้นๆว่า stamped ด้วยความสวยงามของลายพื้นและความคงทน แข็งแกร่ง เหมาะสำหรับงานสถาปัตยกรรมหลายหลายรูปแบบ ชื่อพื้นชนิดนี้เป็นภาษาไทยว่า“พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย” เป็นนวัตกรรม ที่มีลวดลายสีสัน ทำเลียนแบบให้ใกล้เคียงดุจหินธรรมชาติ โดดเด่นด้วยความงาม แข็งแกร่ง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ไม่ดูดซึมน้ำ ป้องกันการเกิด เชื้อราตะไคร่น้ำ ป้องกันการทรุดตัวของพื้น และการแตกร้าว ง่ายต่อการทำความสะอาดดูแตกต่างจากพื้นทั่วไป พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ งานพื้นนอกอาคาร ถนน ทางเดินฟุตบาท ลานจอดรถ ทางเดินในสวน ลานกว้าง ลานอเนกประสงค์ ระเบียง ในรีสอร์ทหรือโรงแรมสะพานลานรอบสระว่ายน้ำ


พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย หรือนิยมเรียกกันว่า Stamped Concrete คือ การใช้เทคโนโลยีแม่พิมพ์ พิมพ์ลายลงผิวหน้าคอนกรีต ก่อนที่คอนกรีตจะแข็งตัว ช่วยเพิ่มสีสัน และความแกร่งของพื้นผิวได้ดีกว่าคอนกรีตทั่วไป เหมาะกับนำมาใช้ร่วมกับพื้นทางเดินนอกบ้าน ลานจอดรถ ถนน และพื้นโรงจอดรถ
ข้อดี
- มีทางเลือกให้เลือกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง ลวดลาย และสี
- มีความแข็งแรงทนทาน กว่าพื้นคอนกรีตปกติ
- ทำความสะอาด และดูแลรักษาง่าย เนื่องจาก พื้นคอนกรีตพิมพ์ ลายเป็นพื้นแผ่นเดียวต่อกัน ไม่มีรอยต่อเหมือนกับการปูพื้นด้วยหิน ทำให้ไม่มีวัชพืชโตขึ้นมาระหว่างแผ่นปู ที่ต้องมากำจัดให้ยุ่งยาก
- ติดตั้งเร็วกว่า เนื่องจากเป็นพื้นแผ่นเดียว ไม่ต้องใช้เวลามากในการเรียงพื้นทีละแผ่นอย่างการปูพื้นหิน หรืออิฐ
ข้อเสีย
- อาจมีรอยแตกเกิดขึ้นได้ เนื่องจากพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายเป็นพื้นแผ่นเดียว จึงมีช่องว่างสำหรับการยืดหดตัวของคอนกรีตน้อย เมื่อคอนกรีตยืด หรือหดตัวมาก อาจทำให้คอนกรีตแตกได้
- หากมีการเคลือบผิว ต้องซ่อมแซมทุก ๆ 3-5 ปี
- ซ่อมแซมได้ยากกว่า ในกรณีของพื้นหิน หรืออิฐ การซ่อมแซม คือ การยกเปลี่ยนเฉพาะแผ่นหินหรืออิฐที่ชำรุด โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องเจาะแต่อย่างใด แต่ในกรณีของพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย เมื่อต้องการซ่อมแซม อาจจำเป็นต้องใช้เครื่องเจาะ นอกจากนี้ การทำให้ส่วนของคอนกรีตใหม่ มีสีคล้ายกับของเดิม สามาถทำได้ยาก
- ยากต่อการติดตั้งด้วยตนเอง
- มีความลื่น เมื่อพื้นเปียก
คอนกรีตพิมพ์ลาย มีความเหมือนกับวัสดุที่ต้องการเลียนแบบสูง เนื่องจากแม่พิมพ์ที่ใช้ในการพิมพ์ลายนั้น ถูกหล่อมาจากวัสดุจริง ๆ นอกจะมีลวดลายที่เหมือนวัสดุนั้น ๆ จริง ๆ ยังมีการทำสีโดยใช้ผงสีย้อมคอนกรีต และการทำสีลงบนพื้นผิวด้านบน เพื่อความเหมือนจริง และมีมิติอีกด้วย นอกจากนี้พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย ยังคงความสวยได้นานกว่า เนื่องจากจะไม่มีวัชพืชโตขึ้นมาระหว่างรอยต่อ และหากพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายทำเลียนแบบลายไม้ จะไม่มีอาการไม้ผุอย่างไม้จริงแน่นอน
หากเทียบกับพื้นคอนกรีตเรียบที่เคลือบผิวเหมือนกัน พื้นคอนกรีตพิมพ์ลายจะมีความลื่นน้อยกว่า เนื่องจากมีผิวขรุขระไม่เรียบ แต่เมื่อเปียกก็จะมีความลื่น เช่นเดียวกับหินธรรมชาติ ฉะนั้นหากต้องการใช้ในบริเวณที่มีการสันจรผ่านมาก หรือริมสระว่ายน้ำที่มีความเสี่ยงในการลื่นสูง สามารถลดความลื่นด้วยการเติมหรือทาสารกันลื่น หรือออกแบบลายให้มีความขรุขระมากขึ้น
- เตรียมโครงสร้างรับน้ำหนัก บริเวณพื้นที่ส่วนที่จะทำพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย ทั้งนี้จะต้องมีพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ความหนาไม่น้อยกว่า 10-15 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับการใช้งานว่าต้องรับน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน
- จากนั้นเท ปูน (Morta) หรือเทปูนทราย ลงบนพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก และปาดหน้าปูนให้เรียบเพื่อให้ได้ระดับ
- ทิ้งไว้ให้คอนกรีตได้ระยะเวลาพอเหมาะ ทำการโรยสีเคลือบความแข็งแรง (Color Hardener) ตามเฉดสีที่เลือกให้ทั่วบริเวณพื้น และขัดสีจนสม่ำเสมอ
- หลังจากนั้นใช้แบบพิมพ์ยาง พิมพ์ลายลงบนพื้นผิว ขณะที่ปูนยังไม่แข็งตัวสนิท จนทั่วบริเวณพื้นคอนกรีต เพื่อให้พื้นมีลวดลายตามแบบที่ต้องการ
- เมื่อผิวคอนกรีตแข็งตัว ทำการตกแต่งสีให้มีมิติ และล้างทำความสะอาด และทิ้งไว้ให้แห้ง
- หลังจากนั้น จะทำการเคลือบน้ำยาอะคริลิค เพื่อเคลือบผิวทั้งหมด น้ำยาอะคริลิคจะเข้าไปอุดรูพรุนบนผิวคอนกรีต ทำให้ผิวไม่ซึมซับน้ำ ลดการดูดซับความสกปรกต่าง ๆ และง่ายต่อการทำความสะอาด เพิ่มความแข็งของผิวหน้า และป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต (รังสี UV) จากแสงแดด
การทำความสะอาดพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายนั้นเรียบง่ายมาก โดยการหมั่นกวาดและล้างพื้นอย่างเป็นประจำ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและคราบสกปรก
- ล้างพื้นด้วยสายยางและหัวฉีดน้ำ
- ขัดพื้นด้วยน้ำยาล้างจาน โดยใช้แปรงขัดพื้น
- ล้างพื้นให้ฟองออกทั้งหมด ไม่ควรให้หัวฉีดน้ำแรงเกินไป มิฉะนั้นการเคลือบผิวอาจจะเสียหายได้
นอกจากการทำสะอาด ถ้าหากมีการเคลือบผิว ควรมีการเคลือบผิวใหม่ทุก ๆ 3-5 ปี เพื่อให้พื้นคอนกรีตพิมพ์ลายดูใหม่อยู่เสมอ สีไม่เฟด ทั้งนี้ความถี่ในการซ่อมแซมขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วย หากเป็นพื้นที่มีการสันจรผ่านบ่อย ๆ โดนสารเคมีบ่อย ๆ หรืออยู่กลางแจ้ง ก็อาจจะต้องมีการซ่อมแซมบ่อยขึ้น
จะเห็นได้ว่า คอนกรีตพิมพ์ลายนั้น มีทั้งข้อดี – ข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนั้น ควรเลือกใช้งานให้เหมาะสมกันด้วย เพื่อการใช้งานที่ยาวนาน และความปลอดภัยของคนในบ้านนั่นเอง
การคมนาคม
ทางอากาศ
-วันที่ 2 กันยายน 2554 ที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา บริษัท Thai Regional Aviation จำกัด ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน สุวรรณภูมิ-โคราช-สุวรรณภูมิ บริษัทเลือกใช้เครื่องบินรุ่น Piper Navajo Chieftain ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ได้รับความนิยมสูง และ มีความปลอดภัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที
-วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 สายการบิน กานต์แอร์ ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน จาก ท่าอากาศยานเชียงใหม่ – ท่าอากาศยานนครราชสีมา โดยทำการบิน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ( จันทร์,พุธ,พฤหัสบดี,เสาร์ ) โดยใช้เครื่องบินรุ่น ATR-72 (ปัจจุบันหยุดให้บริการในสายนี้แล้ว)
รถยนต์
จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ มายังจังหวัดนครราชสีมาได้หลายเส้นทาง คือ
รถโดยสารประจำทาง
- เดินทางจากกรุงเทพฯ
มีรถโดยสารธรรมดา และ รถปรับอากาศชั้น 1 ชั้น 2 และรถตู้ปรับอากาศ สาย 21 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา) วิ่งให้บริการจาก สถานีขนส่งหมอชิต 2 กรุงเทพฯ มายังจังหวัดนครราชสีมา ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีบริษัทเอกชน ที่ได้รับสัมปทานเปิดบริการเดินรถโดยสารสาย 21 ดังนี้
รถปรับอากาศชั้น 1
-
-
- บริษัท ราชสีมาทัวร์ จำกัด
- บริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด
- บริษัท สุรนารีแอร์ จำกัด
รถปรับอากาศชั้น 2
-
-
รถตู้ปรับอากาศ (ไม่รับรายทาง)
-
-
ซึ่งจะให้บริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสารที่สถานีขนส่งทั้งสองแห่ง คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 (ถนนบุรินทร์) และ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) นอกจากนั้น ยังสามารถที่จะเลือกเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ปลายทางจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสานที่ผ่านจังหวัดนครราชสีมาได้
- เดินทางภายในจังหวัด
การเดินทางภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียง มีขนส่งสาธารณะให้บริการดังนี้คือ
-
-
- รถโดยสารประจำทางหมวด 1 และหมวด 4 (รถสองแถว) วิ่งบริการภายในเขตเทศบาล และ บริเวณใกล้เคียง รถโดยสารหมวด 1 แบ่งออกเป็น 21 สาย วิ่งบริการภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียงไปตามเส้นทางต่าง ๆ
- รถจักรยานยนต์รับจ้าง, รถสามล้อเครื่อง และรถสามล้อ วิ่งให้บริการผู้โดยสารภายในเขตตัวเมือง
- รถแท็กซี่มิเตอร์ (Taxi Meter) เปิดให้บริการในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550 เป็นจังหวัดแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจุดจอดรถแท็กซี่อยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 และศูนย์การค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้บริการโดยโทรศัพท์เลขหมายด่วน ปัจจุบันมีรถให้บริการทั้งสิ้นจำนวน 70 คัน
ถ้าต้องการเดินทางไปต่างอำเภอ จะมีรถโดยสารประจำทางหมวด 4 ให้บริการไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา หลายสายด้วยกัน สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งแห่งที่ 1 ถนนบุรินทร์ มีทั้งประเภทรถสองแถว และ รถบัสโดยสารประจำทางให้บริการ จะมีรถโดยสารไป อำเภอปักธงชัย อำเภอประทาย อำเภอด่านขุนทด อำเภอปากช่อง อำเภอสูงเนิน สำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 นั้น จะมีรถโดยสาร ไปเฉพาะ อำเภอพิมาย และ ด่านเกวียน, อำเภอโชคชัย
- เดินทางระหว่างจังหวัด
มีทั้งรถโดยสารประจำทางธรรมดา และปรับอากาศ หมวด 2 และ 3 จำนวนหลายเส้นทางในจังหวัดต่าง ๆ วิ่งให้บริการผ่านจังหวัดนครราชสีมาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) ทุกวัน
นอกจากนี้ มีรถโดยสารประจำทาง ให้บริการรับส่งผู้โดยสารจาก ต้นทางจังหวัดนครราชสีมา ไปยังปลายทางจังหวัดอื่น ในภาคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
-
-
- ภาคอีสาน ได้แก่
- ภาคเหนือ ได้แก่
- ภาคกลาง ได้แก่
- ภาคตะวันออก ได้แก่
- ภาคตะวันตก ได้แก่
- ภาคใต้ ได้แก่
- เดินทางระหว่างประเทศ
-
-
- กรุงเทพฯ-นครราชสีมา – นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (กรุงเทพฯ-เวียงจันทน์ 900 บาท, นครราชสีมา-เวียงจันทน์ 540 บาท)
- เวลา 21.00 น. จากสถานีต้นทาง กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 23.50 น.
- เวลา 18.00 น. จากสถานีต้นทาง นครหลวงเวียงจันทน์ ถึง บขส. นครราชสีมา แห่งที่ 2 ประมาณ 1 นาฬิกา
- เที่ยววิ่งนอกวันและเวลาราชการ เก็บค่าทำการล่วงเวลา ของด่านตรวจคนเข้าเมืองคนละ 5 บาท โดยจัดเก็บที่สถานีเดินรถ
- เดินทางด้วยรถปรับอากาศ 2 ชั้น 32 ที่นั่ง มีสุขภัณฑ์ พนักงานต้อนรับ และอาหารว่าง
- ติดต่อสถานีเดินรถนครราชสีมา โทรศัพท์ 044-254964 หรือ 1490 เรียก บขส.
ในการเดินทางข้ามแดนจากจังหวัดนครราชสีมา ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สามารถใช้หลักฐาน คือหนังสือเดินทางคือหนังสือผ่านแดน หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราวโดยมีแนวปฏิบัติและขั้นตอนดังต่อไปนี้
-
- 1. ใช้บัตรผ่านแดน สำหรับเดินทางเข้าประเทศลาวไม่เกิน 3 วัน 2 คืน และไม่เดินทางไปแขวงอื่น การทำบัตรผ่านแดนทำที่ศาลากลางจังหวัดที่มีชายแดนติดกับลาวโดยใช้หลักฐาน ดังนี้
- รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรจริง
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- ค่าธรรมเนียม
- หากยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องใช้สำเนาสูติบัตรด้วย
- 2. การขอวีซ่า
- ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการของไทยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ในประเทศลาวได้ 30 วัน
- สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาต้องขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทยที่กรุงเทพฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่จังหวัดขอนแก่นโดยต้องใช้รูปถ่าย 1 รูป และเสียค่าธรรมเนียม 30 ดอลลาร์สหรัฐ
- สถานีขนส่งผู้โดยสาร
จังหวัดนครราชสีมา มีสถานีขนส่งผู้โดยสารที่ให้บริการแก่ผู้ที่ต้องเดินทางไปยังอำเภอ หรือ จังหวัดต่างๆ ดังนี้
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 ตั้งอยู่เลขที่ 86 ถนนบุรินทร์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 7 ไร่ 2 งาน 98 ตารางวา เปิดใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 บริหารจัดการโดยเทศบาลนครนครราชสีมา ใช้เป็นสถานีขนส่งภายในจังหวัดเป็นหลัก และมีรถโดยสารปรับอากาศ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ให้บริการ ประกอบไปด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 24 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 6,194 ตารางเมตร
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 1 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2,000 เที่ยว/วัน หรือประมาณ 730,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 50,000 คน/วัน หรือประมาณ 18,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่ ถนนมิตรภาพ-หนองคาย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ 29 ไร่ 50 ตารางวา เป็นสถานีขนส่งฯที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่ง คือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด ใช้เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารระหว่างจังหวัดเป็นหลักเส้นทางที่สำคัญคือ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 111 ช่องจอด พื้นที่ 17,760 ตารางเมตร
- พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 28,416 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 250 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 1,100 คัน
ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 2 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 1,300 เที่ยว /วัน หรือประมาณ 470,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 30,000 คน/วัน หรือประมาณ 11,000,000 คน/ปี
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 12 ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัย มีเนื้อที่ 7 ไร่ บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2539 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 16 ช่องจอด พื้นที่ 3,280 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 40 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 210 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน /วัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย ตั้งอยู่บริเวณตำบลในเมือง อำเภอพิมาย มีเนื้อที่ 6 ไร่ 54 ตารางวา ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่งคือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2538 ประกอบด้วย
-
-
- ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 18 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
- ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 15 คัน และ รถจักรยานยนต์ ประมาณ 25 คัน
สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 230 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน / วัน
รถไฟ
มีรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือกรุงเทพ – อุบลราชธานีและกรุงเทพ – หนองคายทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็วและรถธรรมดาวิ่งให้บริการจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ผ่านจังหวัดนครราชสีมาทุกวัน นอกจากนี้ยังมีขบวนรถท้องถิ่นวิ่งให้บริการระหว่างสถานีรถไฟนครราชสีมาไปยังสถานีรถไฟจังหวัดอื่นๆ เช่น สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานีหนองคาย และอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรีอีกด้วย
สถานีรถไฟนครราชสีมาสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ตั้งอยู่ที่ถนนมุขมนตรี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา อยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพเป็นระยะทาง 264 กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยว